หากจะกล่าวถึงเคล็ดลับสุขภาพดีแบบยั่งยืน สมุนไพรไทยก็มีสรรพคุณช่วยให้สุขภาพดีได้อย่างยั่งยืนเชนกัน ในบทความนี้ขอนำเสนอ สรรพคุณของขิง ซึ่งเป็นพืชสมุนไพร ที่ทำให้มีสุขภาพดีครับ
ประโยชน์หลักๆของขิงมี 2 ประการคือ
- ป้องกันโรค
- บำรุงผิว
สรรพคุณทั้ง 2 ประการพบได้ทั้งในขิงอ่อนและขิงแก่ โดยเราจะพิจารณาเลือกขิงให้เหมาะสมกับผู้ใช้มากกว่า โดยคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารต้องใช้ขิงอ่อนจะเหมาะกว่า โดยหากใช้ขิงอ่อนก็ต้องกินมากกว่าขิงแก่เพื่อให้ได้สรรพคุณที่ใกล้เคียงกัน
ในสรรพคุณเรื่องการบำรุงผิวพรรณของขิงนั้น จะต้องมีวิธีใช้ขิงให้ปลอดภัยกับขิงก่อน โดยต้อง หลีกเลี่ยงการให้ขิงสัมผัสผิวโดยตรง โดยเฉพาะผิวหน้า โดยสิ่งสำคัญในขิงที่ช่วยบำรุงผิวคือ น้ำมันที่ชื่อ จิงเจอรอล (Gingerol) โดยน้ำมันตัวนี้ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตทำให้ผิวมีชีวิตชีวาและนำพาสารพิษจากผิวไปถ่ายเทออกด้วย
สรพพคุณด้านการป้องกันโรคมีดังนี้
- อาการคลื่นไส้หรือเมารถ โดยขิงจะสะกดอาการเวียนหัวง่าย หรือคลื่นไส้บ่อยได้
- กรดไหลย้อน และโรคกระเพาะท้องอืด
- ปากเหม็น ให้ใช้ขิงอ่อนคั้นผสมกับน้ำอุ่นและตัดด้วยเกลือเล็กน้อย นำมาอมบ้วนปากเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อ
- แก้สะอึก ทำได้โดยนำขิงสดมาตำให้ละเอียด ผสมน้ำกับน้ำผึ้ง แล้วค่อยๆจิบช้าๆ
- บำรุงผม แนะนำเมนูบัวลอยงาดำน้ำขิง เพราะขิงมีสรรพคุณช่วยบำรุงรากผม ส่วนงาดำช่วยให้สร้างเส้นผมให้แข็งแรง
- แก้ไอ นำขิงสดมาทุบพอแตกใส่ลงในแก้วน้ำร้อน คนเล็กน้อย และนำมาจิบเป็นระยะๆทำให้ชุ่มคอได้
- แก้หวัดเจ็บคอ ให้จิบชาขิง โดยอาจหยดน้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย โดยไอกรุ่นจากชาขิงจะช่วยให้จมูกโล่ง น้ำมันจากขิงจะช่วยฆ่าเชื้ออักเสบในคอ
- ไล่พยาธิ ให้นำขิงแก่ มาฝนกับน้ำมะนาวหรือตำผสมกัน แล้วเติมน้ำและเกลือลงไปนิดหน่อยให้พอมีรสชาติดื่มได้ แล้วให้กรองน้ำเพื่อนำไปดื่ม เพราะขิงมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อในลำไส้ได้ (นานๆกินที)
- ป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งมีผลต่อสมองและหัวใจ โดยขิงจะทำหน้าที่ล้างท่อ หรือเส้นเลือดและสลายลิ่มเลือดอุดตัน ป้องกันการเกิดโรคอัมพฤกษ์อัมพาตจาเส้นเลือกในสมองตันได้
สำหรับท่านที่ชอบกินอาหารที่มันๆเช่่นอาหารจีน การกินขิงก็จะช่วยให้กระเพาะและลำไส้ทำงานได้สบายขึ้น
อาหารไทยที่เป็นเมนูเกี่ยวกับขิง เช่น หมูผัดขิง ไก่ผัดขิง ปลานึงขิง น่ากินทั้งนั้นครับ แถมยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณและรักษาโรคดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก นิตยสารคู่สร้างคู่สม เรื่องสุขภาพ โดย นพ กฤษดา ศิรามพุช
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น