แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การดื่มชา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การดื่มชา แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

การดื่มชา : วิธีการชงชา

การดื่มชาให้ได้อรรถรส เราต้องเข้าใจวิธีการชงชาก่อนนะครับ เรามาดูกันเลยครับว่าการดื่มชาให้อร่อยต้องทีกรรมวิธีชงชาอย่างไร

1.ใส่ใบชาสมุนไพรโดยใช้ช้อนสะอาดและแห้ง

สำหรับแก้วชงชารุ่นTP540 ใส่ใบชาสมุนไพรประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

สำหรับแก้วชงชารุ่นTP530 ใส่ใบชาสมุนไพรประมาณ 1-2 ช้อนชา

2.เทน้ำเดือดใส่ลงแก้วชงให้ท่วมใบชาสมุนไพร แล้วกดปุ่มเพื่อทิ้งน้ำ น้ำแรกเป็นการอุ่นใบชา

3.เทน้ำเดือนใส่ลงแก้วชงให้เต็ม แล้วรอประมาณ 1 นาที แล้วกดปุ่มให้น้ำด้านบนแก้วชงแห้ง น้ำชาที่ได้จากการชงนี้เป็นน้ำชาน้ำแรกที่ใช้ดื่ม กลิ่นจะหอมมาก และเมื่อชงครั้งที่สองจะได้รสชาเข้มข้น

4.เมื่อดื่มชาหมดแล้วต้องการชงอีก ให้ใช้น้ำเดือดจัดเติมเพื่อให้ได้รสชาติและความหอม ใบชาสมุนไพรสามารถชงได้ 5-10ครั้ง จนกว่าจะหมดรสชา

มาทดลองชงชาและดื่มชากันเถอะ

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

ประเพณีการดื่มชา

ชาเขียวแม้จะเพิ่งโด่งดังในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม แต่วัฒนธรรมการดื่มชา มีมานานนับพันปีแล้ว โดยจีนเป็นชนชาติแรกที่รู้จักการดื่มชา ผลิตชา ชงชา และทำไร่ชามาก่อนชาติอื่นใด มากกว่า 2,000 ปีแล้ว มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับใบชาและประเทศต่าง ๆ ในเวลาต่อมา การดื่มชา ของคนในเอเชีย ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะการคัดเลือก การผลิต การชิม และวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นจากการดื่มชานั้นซับซ้อนไม่น้อยไปกว่าการดื่มไวน์ของคนชาติตะวันตกเลย ในวัฒนธรรมการดื่มชาของคนจีน ชาเป็นสัญลักษณ์ของมิตรไมตรี และการต้อนรับด้วยความยินดี เมื่อมามีแขกมาเยือนถึงที่บ้าน ต้อนรับด้วยชาร้อนหนึ่งถ้วย ซึ่งถือเป็นมิตรไมตรีอันอบอุ่น จากเจ้าของบ้านที่จะขาดเสียมิได้ ในอดีตเรามีร้านอาหารและร้านค้ามากมายที่แสดงไมตรีต่อลูกค้าโดยการเสิร์ฟชาให้ดื่ม ปัจจุบันธรรมเนียมปฏิบัติเหล่านี้แทบจะหาดูได้ยาก นอกจากชาวจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งดื่มชาต่างน้ำแล้ว ประเทศทางตะวันออกกลางอย่าง ตุรกี อิรัก อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน ฯลฯ ก็ดื่มชากันมากเหมือนกัน

การดื่มชา ตอน การเลือกซื้อใบชา

การเลือกซื้อใบชา
ใบชาสมุนไพรในท้องตลาดมีให้เลือกซื้อมากมาย เช่น ใบชาแห้งสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ใบชาแปรรูป เป็นต้น แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าใบชาที่เราซื้อมาเป็นใบชาที่มีคุณภาพ ดังนั้นจึงควรมีความรู้พื้นฐานในการเลือกซื้อใบชา โดยให้พิจารณาลักษณะของใบชาดังนี้
1. ลักษณะใบ ใบชาจะคืนชีพเมื่อถูกน้ำร้อน เมื่อใบชาคืนสู่สภาพเดิม เราก็สามารถที่จะบอกเกรดของใบชาได้โดยสังเกตจากลักษณะใบว่าเป็นใบตูม ใบอ่อนใบนุ่ม ใบเล็ก ใบใหญ่ ใบเหนียว ใบแข็ง ใบสมบูรณ์ หรือขาดแหว่ง ตลอดจนสีว่าใบชามีสีอ่อนหรือสีเข้ม
2. ความสมบูรณ์ของยอดใบชา กากใบชาที่ชงมีความสมบูรณ์ของยอดใบชาให้เห็นหรือไม่ คือเมื่อเขี่ยดูแล้วจะเห็นยอกใบชาที่มียอดตูมและใบอีกสองใบติดอยู่กับก้าน ถ้ามี มีทั้งหมดหรือมีเป็นบางส่วน
3. มีสิ่งสกปรกเช่นก้านใบชา เศษใบชา หรือเศษผงมากน้อยแค่ไหน

ครับนี่ก็เป็นวิธีการเลือกซื้อชาสมุนไพรแบบง่ายๆที่ผู้ดื่มชาควรจะรู้ครับ เรามาดื่มชากันเถอะครับ

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

มาดื่มชาเจียวกู่หลานกันเถอะ

เจียวกู่หลาน หรือปัญจขันธ์ เป็นพืชตระกูลแตง มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ช่วยให้ การนอนหลับดีขึ้น ลดความเครียด ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบของตับ ขับเสมหะ แก้ไอ ลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ยับยั้งการเกาะตัวของเม็ดเลือด ยืดอายุของเซลล์ในร่างกาย ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค บรรเทาอาการปวดศีรษะข้างเดียว บรรเทาอาการของโรคหัวใจ เป็นต้น

เจียวกู่หลัน

มารู้จักชาสมุนไพรกัน

ชาสมุนไพรเป็นเครื่องดื่มที่มีคาม สำคัญอย่างยิ่งในขั้นตอนล้างพิษและรักษาสุขภาพ ของเหลวที่ร่างกายรับเข้าไปนั้นมีความสำคัญพอๆ กับอากาศบริสุทธิ์ที่คุณหายใจเข้าปอดเลยทีเดียว ชาสมุนไพรมีผลต่อภาวะกรดด่างที่สมดุลในร่างกาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ กระบวนการล้างพิษในร่างกาย ซึ่งชาสมุนไพรนี้จะช่วยกระตุ้นระบบย่อยและการดูดซึมอาหาร ช่วยผ่อนคลายระบบประสาทหรือช่วยลำเลียงสารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ การเลือกชาสมุนไพรที่เหมาะกับสภาพปัญหาของคุณจึงเป็นเรื่องสำคัญ และควรดื่มชาอย่างต่อเนื่องทุกวันเพื่อสังเกตผลที่ได้ โดยดื่มชาสลับกับน้ำผักผลไม้คั้นสดและน้ำเปล่าเป็นระยะ ๆ ลองทดลองดูนะ

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

ดื่มชา ช่วยลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง

นักวิจัยพบการดื่มชาวันละ 2 ถ้วย ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังได้อย่างน้อย 65% โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มชาวันละหลายถ้วยติดต่อกันมากว่า 40 ปี ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารยูโรเปียน เจอร์นัล ออฟ แคนเซอร์ พรีเวนชัน แสดงให้เห็นว่าคุณสมบัติในการต้านทานโรคของใบชาสามารถปกป้องผู้ดื่มจากมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ในชั้นหนังกำพร้า (squamous cell carcinoma) และมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ในชั้นฐานของหนังกำพร้า (basal cell carcinoma) ซึ่งแม้ไม่อันตรายเท่ามะเร็งที่เกิดจากเซลล์เม็ดสร้างสี (malignant melanomas) ซึ่งถือเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดร้ายแรงที่สุด แต่มีอัตราการเกิดสูงมาก มะเร็งทั้งสองชนิดเกิดจากการรับรังสีจากแสงแดดมากเกินไป และจะค่อยๆ ขยายตัวอย่างช้าๆ ในช่วงเวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี มะเร็งที่เกิดจากเซลล์ในชั้นหนังกำพร้าปกติแล้วจะเป็นบริเวณใบหน้า และกลายเป็นแผลพุพองรักษาไม่หาย ส่วนมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ในชั้นฐานของหนังกำพร้ามักแสดงตัวในรูปก้อนนูน ที่ไม่ทำให้เจ็บปวด และค่อยๆ โตขึ้น แม้ไม่ลุกลามทั่วร่างกาย แต่ผู้ป่วยจำเป็นต้องผ่าตัดก้อนเนื้อร้ายชนิดนี้ออก

อนึ่ง ในการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า ชาสามารถปกป้องจากโรคหัวใจ มะเร็งรังไข่ และความเครียด

สำหรับการศึกษาล่าสุดที่จัดทำโดยดาร์ตมัท เมดิคัล สกูลในนิวแฮมป์เชียร์ สหรัฐฯ นักวิจัยวิเคราะห์ผู้ป่วย 1,400 ราย อายุระหว่าง 25-74 ปี ที่เป็นมะเร็งหนึ่งในสองประเภทนี้ โดยนำพฤติกรรมการกินและดื่ม รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้ป่วยเหล่านี้ไปเปรียบเทียบกับกลุ่มตัวอย่าง ที่มีองค์ประกอบต่างๆ คล้ายกันแต่ไม่เป็นมะเร็ง

ผลการศึกษาพบว่า คนที่ดื่มชาเป็นประจำมีความเสี่ยง น้อยลง 65% ในการเป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ในชั้นหนังกำพร้า และน้อยลงเกือบ 80% สำหรับมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ในชั้นฐานของหนังกำพร้า

ดร.จูดี รีส ผู้นำการวิจัยกล่าวว่า มีการนำสารประกอบในใบชามา ตรวจสอบเพื่อหาสารที่เป็นตัวชูโรงต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆ และพบว่าสารที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ดี ดร.รีสเสริมว่า จำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่า การดื่มชาช่วยปกป้องโรคร้ายจริง ไม่ใช่รูปแบบการใช้ชีวิตอื่นๆ รู้แบบนี้แล้วหันมาดื่มชากันดีกว่านะ

ดื่มชา ป้องกันมะเร็งรังไข่

สตรี ควรดื่มชาไม่ว่าจะเป็นชาเขียวหรือชาดำเอาไว้เป็นประจำ วันละ 1–2 ถ้วย จะช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นมะเร็งของรังไข่ลงได้ ถึงครึ่งหรือมากกว่านั้น นักวิจัยมหาวิทยาลัยแห่งวอชิงตัน ของสหรัฐฯ สังเกตพบจากการศึกษากับผู้หญิง 2,000 คน ว่า สามารถหนีห่างโรคมะเร็งรังไข่ได้ถึงร้อยละ 54 จากการดื่มชาเขียวประจำวันละ 1-2 ถ้วย ขณะที่สถาบันการแพทย์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ศึกษาพบว่า สตรีที่ดื่มชาดำวันละอย่างต่ำ 2 ถ้วย จะลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งรังไข่ ลงได้เกือบร้อยละ 50
จากการศึกษาทั้งสองแห่งยืนยันถึงสรรพคุณของการดื่มชาดำและชาเขียวในการป้องกันมะเร็ง ทราบแบบนี้แล้วเรามาดื่มชากันเถอะ

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

ดื่มชาช่วยป้องกันมะเร็งได้

จากบทความที่ผ่านมาได้กล่าวถึงประโยชน์ของการดื่มชา ในด้านการลดน้ำหนัก และการชะลอความแก่ บทความนี้จะกล่าวถึงประโยชน์ของการดื่มชา ในด้านอื่นบ้าง ชามีสารสำคัญมากมาย ทำหน้าที่เป็น แอนติออกซิเแดนท์ คือ Flavanoid, Polyphenol catechin, Vitamin C, Vitamin E, Saponia, Magesia, Selenium ในที่นี้ขอเน้นสารตัวหนึ่งที่มี ปริมาณมากในน้ำชา ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารป้องกันมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด คือ Epigallo- -catechin Gallate (EGCG) ป้ิองกันการเกิดมะเร็ง สารตัวนี้มีฤทธิ์ในการยับยั่งมะเร็งมากกว่า วิตามิน ซี ถึง 2 เท่าและสามารถยับยั้งการสร้างสารไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อนมะเร็งรุนแรง นอกจากนี้ตามรายงานของกองการป้องกันโรค และกองโภชนาการ ในกรมการ แพทย์ของประเทศจีน รายงานว่า การดื่มชาอูหลงสามารถยับยั้งสาร MNNG ที่ทำให ้เกิดมะเร็ง ในกระเพาะอาหารและลำไส้ อีกทั้งสาร DEAN ที่ทำให้เกิดมะเร็งในปอดได้ ทราบแบบนี้แล้วเรามาดื่มชากันเถอะ

ดื่มชาช่วยลดน้ำหนักได้

ว่ากันว่าดื่มชาชนิดไหนก็ไม่ดีเท่า "ชาอู่หลง" เพราะเป็นชาสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพและไม่มีความหวานปนอยู่เลย จนกระทั่งปัจจุบันสถาบันลดน้ำหนักทางการแพทย์ได้พบว่า ชาอู่หลงมีส่วนประกอบยอดเยี่ยมที่ช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว โดยได้ทดลองใส่ในเมนูให้แก่ผู้เข้าร่วมโปรแกรมลดน้ำหนักชาวจีน ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าการดื่มชาอู่หลงสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีกว่าการดื่มชาเขียวถึง 2 เท่า รวมไปถึงการดื่มชาอู่หลงยังสามารถลดปริมาณความอ้วนที่เกิดจากคาร์โบไฮเดรตได้เช่นกันและยังจำกัดสารสะสมไขมันส่วนเกินในร่างกาย เมื่อมองลึกลงไปมากกว่านั้นการดื่มชาอู่หลงยังช่วยชะลอความแก่ของวัยสาวได้อีกด้วย เพราะน้ำชาอู่หลงมีคุณสมบัติไปทำลายริ้วรอยที่เกิดจากการสัมผัสรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต ความเครียด หรือมลภาวะต่างๆ เมื่อทราบอย่างนี้แล้วคงต้องหันมาดื่มชาอู่หลงกันดีกว่า
การดื่มชา ชาสมุนไพร วิธีดื่มชา น้ำชา ดื่มชา Yahoo bot last visit powered by  Ybotvisit.com